คาบเรียนที่ 1
ในวิชา Computer Interactive เราจะเรียนเกี่ยวกับ วิธีการออกแบบ embedded hardware หรือ การประยุกต์ digital media technologies และ interactive software ให้ไปมีส่วนช่วยในการจัดแสดง Museum, Exhibition และ Dramatization โดยเนื้อหาที่เราจะเรียนนั้นจะเกี่ยวกับ Museum design process และการ computing application ระหว่าง Digital media technology และผู้ใช้งาน โดยการเรียนการสอนจะเน้นการ discussion ภายในห้องเรียนและ การเดินหาประสพการณ์และแนวคิดแปลกใหม่จาก การเดินชมพิพิธภัณฑ์จริงๆหรือ exhibition ต่างๆ
"ส่วนตัวแล้วผมชอบมากชอบที่วิชานี้ไม่เหมือนใครและเน้นเรื่องประสพการณ์จริงของการพบเห็นจากสิ่งที่มันสัมผัสได้มากกว่าในหนังสือแต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีหลักการเพราะในแต่ละครั้งเราสามารถเปรียบเทียบและเห็นได้เลยว่าสิ่งที่เราเห็นและทำมานั้นมันมีขั้นตอนและการสร้างที่เหมือนกับทฤษฎีที่ได้เรียนมา ชอบตรงที่ว่าความรู้มันไม่ได้อยู่แต่ในห้องเรียนเสมอไปแต่เราสามารถหาความรู็ได้จากทุกที่ อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นหรือไม่ และที่สำคัญเหมือนเราได้เที่ยวและเรียนรู้สิ่งต่างๆไปพร้อมๆกันครับ เหมือนเรากำลังสนุกกับสิ่งที่เราได้เรียนรู้มากกว่าการที่เรานั้งเรียนในห้องสี่เหลี่ยมธรรมดา"
Interactive Computing นั้นประกอบไปด้วยสองคำหลักๆที่เราจะต้องทำความเข้าใจก่อนนั้นก็คือ
Interactivity: การที่คนสองคนหรือมากกว่านั้นมีการปฏิสัมพันธ์กันไม่ว่าจะเป็น ฟัง, คิด, พูด
Physical computing: การที่เราเขียนโปรแกรมทำให้สิ่งที่ไม่มีชีวิตเช่น พวก Hardware ทำงานขึ้นมาได้
Interactivity + Physical computing = Physical interactive คือการที่เรานำ Hardware ที่เรามีนั้นมาพัฒนาให้มันสามารถคุยโต้ตอบกับคนหรือผู้ใช้งานได้
\\Think out of box//
แหล่งที่มา: http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/a2/Interactive_whiteboard_at_CeBIT_2007.jpg
"การที่เราจะมองหาว่าเราจะประดิษฐ์สิ่งอะไรขึ้นมานั้นให้ดูน่าสนใจนั้นไม่ยากเลย แค่เราลองมองและคิดไม่เหมือนคนอื่น แค่เราเริ่มที่จะคิดนอกกรอบ (Think to possible) ของตัวเราเอง เราก็สามารถที่จะค้นพบได้ว่าโลกของเรานั้นมีสิ่งที่น่าอัศจรรย์อยู่มากมายที่น่านำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และเป็นที่น่าสนใจอย่ายิ่ง ไม่จำเป็นว่าสิ่งที่น่าสนใจจะมาจากสิ่งใหญ่ๆหรือสิ่งที่ทำขึ้นมายาก แต่ถ้าเราค้นพบจุดแปลกใหม่แม้สิ่งนั้นจะทำขึ้นมาไม่อยากแต่มันก็น่าสนใจขึ้นมาได้ "
ในทางเดียวกันการที่เราจะทำให้สิ่งของที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะมีอะไรให้มันเด่นขึ้นมาได้นั้นก็ต้องใช้หลักการเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น