ตอนนี้จะยาวหน่อยนะครับ เพราะจะแบ่งส่วนในการอธิบายออกเป็นสี่ส่วนใหญ่ๆด้วยกันคือ นิทรรศการ Hello world, นิทรรศการทาวร, ห้องสมุดของ TCDC และเรื่องที่ฟังบรรยายในห้องบรรยาย
1. ส่วนแรกนิทรรศการ Hello world
นิทรรศการดังกล่าวต้องการจะเปิดตา เปิดใจให้ผู้เข้าชมรู้ว่าตอนนี้โลกเราเป็นยังไงบ้าง โดยแบ่งการนำเสนอออกเป็น 4 หมวดด้วยกันคือ เหมือนหรือต่าง, บิด ปรับ แปลง, ของเก่าเท่ากับคุณค่าใหม่ ของใหม่คลี่คลายโจทย์เก่า และสุดท้ายโลกที่เป็นหนึ่งเดียว
1. เหมือนหรือต่าง
ห้องนี้บรรยายถึงทุกสิ่งในโลก ถึงแม้ว่าจะแลดูเหมือนๆกันแต่ในความเหมือนนั้นก็มีความต่างอยู่ ในที่นี้ยกตัวอย่างเป็นเมือง New York
เมือง New York ดูเผินๆเรากูคงคิดว่าเป็นเมืองทั่วๆไป
แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าเราเห็นสิ่งเหล่านี้แล้วเราจะไม่รู้ว่ามันคือเมือง New York ประตูหน้าบ้าน ส่วนกลางเมือง และ รถแท็กซี่สีเหลือง
และสิ่งเหล่านี้อีกเช่นกันที่เป็นตัวบ่งบอกว่าเป็น New York ในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโบว์ชัวร์ให้กำลังใจคน New York เมื่อครั้งเจอวิกฤตเครื่องบินชนตึกแฝด หรือหนังสือ Humans of New York ที่บอกเล่าความเป็น New York ออกมาทางหนังสือ หรือทางแต่งการของคน New York ก็บอกความคิดเลย วัฒนธรรมได้เช่นเดียวกัน


และปิดท้ายด้วยการกระแทกแรงๆให้เรามองกระจกแล้วบอกว่าแล้วตัวเราหละ จริงๆแล้วเป็นแบบไหน จากนั้นจะเข้าสู่ส่วนที่ สอง ของนิทรรศการ
ในส่วนนี้จะบอกว่า ถ้าเราลองนำบ้างสิ่งมาเปลี่ยนซักนิดมันอาจจะเข้ากับบ้างสถานะการณ์ได้ดีกว่าที่มันเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ แต่บ้างอย่างก็เหมือนกันถ้ามันเปลี่ยนโดยที่ไม่ได้มองบริบทรอบข้างก็อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่เข้ากันเลยได้อีกเหมือนกัน
นิทรรศการได้นำเสนอ แนวคิด ด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆทั่วๆไปหลายประเทศ ดังนี้
รวดลายของชุดทหารที่เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศของแต่ละตำแหน่ง หรือขนมช็อกโกแลตที่แถมของเล่นในต่างประเทศที่หนาวๆ จะทำได้เนื่องจากช็อกโกแลตจะไม่ละลายแต่เมื่อเปลี่ยนมาขายให้คนแถบร้อนทำให้ต้องเปลี่ยนแพคเกจใหม่เพื่อจะได้ลองรับต่อสภาพอากาศ
หรือถุกโชคดีที่เป็นกุศโลบายในการระบายของของทางร้านที่จะบรรจุของในราคาที่เท่ากันและนำมาวางให้คนเสี่ยงดวงดูเมื่อซื้อไปใช้ หรือไม่ว่าจะเป็นชุดใส่แฮมเบอร์เกอร์ที่ออกแบบมาเพื่อบังปากและใบหน้าทำให้ยอดขายของทางร้านเพิ่มมากขึ้น
หรือกล่องใส่ก๋วยเตี๋ยวที่พัฒนามาจากกล่องใส่ขนมที่เหลือใช้แต่ถูกผลิตมามากจนเกิดไปกว่าจะทิ้งให้เสียเปล่าทำให้ไม่ขาดทุนเป็นกลาย แปรสภาพสิ่งของทำให้มีก๋วยเตี๋ยวที่ใส่ในกล่องกระดาษ หรือไม่ว่าจะเป็นเหล้าที่ทำมาจากข้าวของประเทศไทยแต่กลับมีรสชาดที่อร่อยกว่าเหล้าที่ทำในประเทศไทย
หรืออาหารเช่นในภาพ แฮมเบอร์เกอร์ถูกปรับเปลี่ยนให้ถูกปากกับคนแต่ละสถานที่ หรือเสื้อที่ถูกสกรีนเพื่อนำมาขายกับคนที่สนใจในตัวผู้นำนั้นๆ
โบว์ชัวร์ที่ถูกทำขึ้นเพื่อให้กำลังใจคน จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าโบว์ชัวร์ของจริงที่เป็นต้นแบบคืออันไหน
นี่เป็นตัวอย่างสิ่งของที่พยายามจะบิด ปรับ เปลี่ยน มากเกินไปโดยที่ไม่คำนึงถึงคนที่อยู่ ทำให้เป็นการบิด ปรับ เปลี่ยน ที่เกิดความผิดพลาดชิ้นโตของประเทศจีนที่พยายามจะเปลี่ยนเมืองๆหนึ่งให้กลายเป็น ปารีส
3. ของเก่าเท่ากับคุณค่าใหม่ ของใหม่คลี่คลายโจทย์เก่า
เป็นการนำของเก่ามาปรับเปลี่ยนให้สามารถทำงานได้เทียบเท่ากับของใหม่ๆที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยที่ไม่ต้องทิ้งให้เสียคุณค่า โดยในส่วนนี้จะแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกันคือ ของเก่านำมาดัดแปลงให้ใช้งานได้ใหม่กับ สร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆขึ้นมาแก่ไขปัญหาเก่าๆ
หมวดแรกของเก่าเท่ากับคุณค่าใหม่
เป็นการนำของเก่าๆที่มีอยู่เดิมๆมาเพิ่่มไอเดียเพิ่มมูลค่า อย่างจดหมวยเป็นการส่งข้อความในแบบเก่าๆแต่กลับถ่ายทอดส่งความรู้สึกให้กับเราได้เป็นอย่างดี ให้ที่นี้เปลี่ยนหมึกที่ใช้เขียนจดหมายจากหมึกธรรมดาเป็นหมึกกลิ่นกุหลายที่ส่งถ่ายทอดความรู้สึกถึงผู้รับ หรือไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาเป็ดที่มีมาแต่โบราณเราจะเห็นว่ามีช่วงหนึ่งที่นำเป็นว่างตามเนินน้ำของแต่ละประเทศทำให้เป็นจุดขายให้คนไปเที่ยวและถ่ายภาพมากมาย หรือไม่ว่าจะเป็นกล่องโพราลอยด์ธรรมดาๆแต่เรานำมาปรับเปลี่ยนให้มันใช้งานควบคู่กับโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน
ร้านขายของมือสองในญี่ปุ่นเพิ่มมูลค่าและความรู้สึกให้กับของมือสองโดยของมือสองทุกชิ้นที่ถูกขายในร้านนั้นจะมีข้อความจากเจ้าของเก่าบอกเล่าว่าทำไมจึงอยากจะนำของใช้มาขายต่อเช่นต้องการส่งความรู้สึกดีๆเวลาใช้ให้กับคนอื่นได้ทดลองใช้ หรือไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็คนำกางเกงยีนไปให้คนหลายๆอาชีพใส่จากนั้นนำกลับมาและขายต่อรายในกางเกงของคนแต่ละอาชีพก็จะไมาเหมือนกันเป็นการสร้างจุดขายให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว หรือจะเป็น กิโมโนที่ไม่ว่าจะสมัยนี้หรือสมัยก่อนก็ยังคงใส่ได้เสมอ
ส่วนชิ้นนี้ผมชอบมากๆครับเป็นการบอกเล่าของเก่าเท่ากับคุณค่าใหม่ได้เป็นอย่างดีครับ เพราะเครืองพิมพ์ดีดที่เราไม่ได้ใช้งานแล้วกลับมีประโยชน์ในการพิมพ์งานบทจอไอแพทได้เป็นอย่างดี เป็นการรวมกันระหว่างของโบราณและของทันสมัยได้เป็นอย่างดีครับ ผมชอบ
ของใหม่คลี่คลายโจทย์เก่า
บวบเราคงคิดว่าสามารถนำมาบริโภคเป็นอาหารได้เพียงอย่างเดียวแต่จริงๆแล้วเราสามารถนำบวมมาสะกัดและทำที่ดักเสียงในห้องเก็บเสียงได้ หรือไม่ว่าจะเป็น google earth ที่ถูกพัฒนาขึ้นมามีเรื่องเล่ามามีเด็กอินเดียคนหนึ่งผลัดหลงกับที่บ้านตั้งแต่เยาว์วัยปัจจุบันสามารถตามหาครอบครัวของตนเองเจอได้โดยการหาบ้านเก่าผ่านจาก google earth หรือไม่ว่าจะเป็นเสื้อหนาวที่ถ้าต้องการป้องกันหิมะเราก็จะซื้อเป็นขนเป็ดแบบทางด้านขวาแต่ปัจจุบันนวัตกรรมนั้นก้าวไกลเราสามารถใส่เสื้อหนาวตัวบางๆทางด้านซ้ายก็สามารถป้องกันความหนาวได้แล้ว
หรือไม่ว่าจะเป็นแอพพลเคชั่นที่ถูกพัฒนามาช่วยผู้ใช้งานที่ต้องการทราบเกี่ยวกับโครงสร้างของร่ายกายที่สามารถเข้ามาเปิดดูส่วนต่างๆภายในร่างกายได้เพื่อเป็นส่วนช่วยในการสื่อสารกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ หรือจะเป็น 3D printing ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนเราที่ต้องการประดิษฐ์ของเราสามารถประดิษฐ์ของขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเราได้โดยที่สามารถออกแบบเองได้
4. โลกที่เป็นหนึ่งเดียว
จากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นทำให้คนทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ โดยไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใดๆ
การที่เรามีสิทธิเสรีภาพที่จะเลือกให้ตัวเองขาวหรือว่าดำก็ได้เพราะทุกวันนี้นวัตกรรมนั้นก้าวไกลมากมายที่จะมาช่วยตอบโจทย์ในสิ่งที่เราอยากได้ หรือมีอิสระที่จะจัดทำหนังสืออะไรก็ได้ที่อยากจะทำ แม้แต่ผู้ชายที่อยากจะเขียนคิ้วเพื่อให้ตัวเองดูดี
ในตอนท้ายเราสามารถมาเล่นกันจอภาพซึ่งจอภาพอันนี้จะรวบรวม # ของานทุกๆชิ้นที่จัดแสดงว่าเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง เช่น เรากดเลือก # เรื่องความเชื่อ ผลงานหรือชิ้นงานไหนที่เกี่ยวข้องก็จะแสดงโชว์ให้เห็น
ที่ TCDC นั้นจะเน้นเรื่องของเทรน แฟชั่น ดังนั้นในนิทรรศการถาวรจึงนำเสนอเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นวิวัฒนาการของของสมัยโบราณทั่วทุกมุมโลก
3. ห้องสมุด
ต้องบอกว่าห้องสมุดที่นี่น่าใช้มากๆครับทันสมัยดี มีการใช้งานที่ Interact กับผู้ใช้งานที่ผมเห็นหลักก็มีอยู่ สองอย่างนะครับ อย่างแรกคือผู้ใช้งานสามารถเข้าชมชั้นหนังสือแต่ละชั้นผ่านจอสัมผัสได้ว่าแต่ละชั้นมีหนังสืออะไรบ้าง กับอีกอย่างหนึ่งทีเป็นการใช้งานเสริมคือที่นี่ไม่มีการยืมคืนหนังสือ ถ้าผู้สนใจต้องการอ่านหนังสือจะต้องเข้ามาอ่านภายในห้องสมุดเท่านั้นทำให้ผู้ใช้งานจะต้องลำบากในการจำว่าหน้าที่อ่านนั้นค้างอยู่ที่หน้าไหนที่ให้ออกระบบที่คั่นหนังสืออัจฉริยะขึ้นมาคือ เมื่อเสียบคั้นไว้บรรณารักษ์จะทำการเซฟเลขหน้าเก็บไว้ให้กับผู้ใช้งานเมื่อมาใช้งานครั้งถัดไปสามารถเข้าอ่านข้อมูลได้ว่าอ่านค้างไว้ที่หน้าที่เท่าไร เสียดายที่ไม่มีภาพมาให้ชมกันนะครับเพราะว่าที่นี้ไม่อนุญาติให้ถ่ายรู้ได้
4. ฟังบรรยายในห้อง
ได้มีโอกาสฟังบรรยายจากผู้อำนวยการของที่ TCDC ก็รู้สึกว่าได้ฟังได้รู้งานจากคนที่ทำงานจริงๆครับ รู้สึกว่ามันไม่ใช้แค่คนทำงานที่สามารถคิดงานออกมาได้ แต่ต้องเป็นคนที่รู้สึกสนุกกับงานที่ทำครับสนุกกับที่ได้ฟังแนวคิดหรือความคิด ผมชอบวิธีการคิดนะครับและคิดว่า ที่มีโอกาสได้ฟังนั้นมีประโยชน์มากๆครับหาโอกาสแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ ผมชอบแนวคิดที่ว่าการออกแบบห้องนิทรรศการแต่ละห้องนั้นอย่าออกแบบให้ทุกห้องนั้นมีความเท่ากันแต่ควรทำให้มันมีความหลากหลายของแต่ละห้อง เพราะถ้าทุกอย่างเท่ากันหมดจะกลายเป็นว่างานนิทรรศการนั้นไม่มีจุดเด่นให้คนจดจำเลยเพราะว่าทุกอย่างมันเท่าๆกันหมด ดังนั้นการจัดนิทรรศการเราอาจจะใช้หลักการกระแทกใจเพื่อสร้างความจดจำก็เป็นได้เราควรเริ่มเรื่องราวจากการติดลบก่อนและค่อยๆสร้างเรื่องจาก 0-10 และอาจจะจบภายในห้องด้วยการทิ้งท้ายให้คนอยากรู้ ก็เหมือนกับการที่เราชอบดูซีรี่ย์เกาหลีที่เมื่อจบทุกตอนจะลงท้ายด้วยเนื้อเรื่องที่ให้น่าติดตามต่อในตอนถัดไป









































ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น