วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Recommend 6: จุ้งเฟร้าความงามบนกลุ่มหิมะที่หนาทึบ


         จุ้งเฟร้าทะเลหิมะแห่ง สวิตเซอร์แลนด์ ทางขึ้นไปเราจะต้องขึ้นไปที่ยอดเขาด้วยรถไฟทางเดียวเท่านั้นเพราะไม่สามารถจะขึ้นได้ทางอื่นระหว่างทางนั้นเราก็สามารถชมทัศนียภาพ รอบๆยอดเขาได้เป็นวิวที่สวยงามมาก

         บนจุ้งเฟร้านั้นมีจุดชมวิวที่แตกต่างกันอยู่สามอย่างให้เข้าชมด้วยกันคือ
         1.อุโมงค์หินน้ำแข็ง


         2. จุดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของที่มาบนจุ้งเฟร้าและก็โชว์อุปกรณ์สวยงามๆน่าสนใจมากๆเลยมีแสงสีเสียงมากมาย




        3. จุดชมวิวต่างๆ





วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Recommend 5: Museum in Zurich

     
            Zurich เป็นเมืองๆหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พวกเรารู้สึกถึงความแตกต่างเลยถึงวิธีการนำเสนอภายในการจัดแสดงที่แตกต่างกันออกไปมีรูปมาให้ชมด้วยนะ


เป็นที่รู้กันว่าประเทศสวิตนั้นดังเรื่องนาฬิกา นี่คือโมเดลนาฬิกาแบบประยุกต์


แสดงธนบัตรตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน


โมเดลลูกโลก และตู้ยาสมัยโบราณ

ห้องจำลองห้องอาหารของปราสาท


ตู้โชว์เครื่องแบบต่างๆ


          ในพิพิธภัณฑ์นี้มีจุดที่มีลูกเล่นกับผู้เข้าชมด้วยนะมีรูปมาฝากด้วย จะบอกว่ารอคิวเข้าไปเล่นนานมากกลุ่มก่อนหน้าไม่ยอมเลิกเล่นฮาๆๆ






วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Lecture 5: ICT and Physical Computing in Museum, lesson learned from Museum Siam and IT Musuem


คาบเรียนที่ 5


OKMD
          คือหน่วยงานที่ดูแลบริหารและพัฒนาความรู้ของประเทศ มีโครงการที่อยู่ภายใต้การดูแลใหญ่ๆด้วยกันคือ 
                  TK PARK: สำนักงานและอุทยานการเรียนรู้ สอร.

                  TCDC: ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ศสบ.
                  NDMI: สถานบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ สพร.

         โดยมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานดังนี้ เป็นองค์กรนำในการพัฒนาความคิด เพิ่มความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญาของประชาชน โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้สาธารณะ

Physical computing

          การทำให้อุปกรณ์ที่เป็น ฮาร์ดแวร์  เอามาเขียนด้วย ซอฟแวร์ให้ทำงานได้



Tangible-intangible: จับต้องได้-จับต้องไม่ได้
Cognitive(การรับรุ้): การออกแบบโดยอ้างอิงถึง UDL (กระบวนการเรียนรู้)


Neuro sciences
           การพัฒนาหุ่นยนต์ Google ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับหุ่นยนต์ ใครจะรู้ซักวันหนึ่งอาจจะมีการพัฒนาให้มีการหาคู่จากหุ่นยนต์ก็เป็นได้




Tri angle
           รูปข้างต้นนี้ใช้สำหรับ บอกว่าเทคโนโลยีได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแนะนำพิพิธพันธ์เรียบร้อยแล้ว อาจจะเป็นพวก หุฟัง วิดีโอ หรือแม้แต่ Google map ที่สามารถมองเห็น ได้360 องศา และนำพวก augment reality, virtual reality เข้ามาช่วยในการนำเสนอก็เป็นได้ ที่เรามีสิ่งพวกนี้เพราะเราต้องการสอนเรื่องที่มันเข้าใจยากให้เข้าใจได้ง่ายเพื่อจะได้เข้าใจถึงที่มาของสื่งเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น หรือแม้จะไม่ได้มาดูนิทรรศการได้ด้วยตัวเองก็สามารถเข้าชมจาก online website อาจจะเป็นคลิปวิดีโอก็เป็นได้

ตัวอย่าง Online website ของ Anne Frank House and Lost Boys started building an online museum

การเรียนรู้มีสองแบบด้วยกันคือ Formal/Informal ดังนี้

Formal  : Activity นั้งเรียนในห้อง             Affiliation: เรียนกับกลุ่มเพื่อน
Informal: Activity ไปเรียนนอกสถานที่      Affiliation: หาผู้มีประสบการณ์หรือผู้มีความรู้มาสอน

Lifelong learning

           การเรียนรู้ทั้งชีวิต การเรียนรู้ไม่จำเป็นว่าจะต้องจบลงที่ห้องเรียนเสมอไปแต่เราสามารถศึกษาหาความรู้ได้ทั้งชีวิต เช่น การอ่านหนังสือ การท่องเที่ยว หาข้อมูลที่เราไม่รู้เรื่องผ่านทาง google  หรือแม้แต่ถามผู้รู้ ดูหนัง โดยที่การกระทำเหล่านี้คือการทำโดยไม่มีใครบังคับ เป็นการทำโดยการสมัครใจที่จะเรียนเองไม่ว่าเหตุผลนั้นจะมาจาก การที่เราสนใจ จากประสพการณ์ หรือจากสิ่งแวดล้อมของบริษัท หรือจากสิ่งที่มีอยู่ไปทั่ว ทั้งชีวิต

Learning in museum

           การเรียนรู้ใน พิพิธภัณฑ์มีวิธีการนำเสนอที่แตกต่างอยู่ที่ว่าเราจะนำเสนออกมาในรูปแบบไหน

Design museum

           จะต้องเข้าใจว่ามันคือพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับอะไรก่อน เพราะพิพิธภัณฑ์แต่ละที่มันต่างกัน

Role of the object

           เอาสิ่งสำคัญแสดงมันออกมา เอาออกมาอธิบาย ว่ามันคืออะไรจุดสำคัญ และสิ่งเหล่านี้หละมันคือ ความรู้

Relationship museum edurator and learner

           คนนำชมพิพิธภัณฑ์กับผู้ชมก็มีความสัมพันธ์กัน ผู้นำจะต้องมีวิธีการนำเสนอให้เหมาะสมกันอายุ และเพศ ของแต่ละผู้เข้าชม โรงเรียน คือการเรียนรู้คือที่เรียนแต่พิพิธภัณฑ์จะโชว์ถึงอดีตหรือเอาเทคโนโลยีและการเรียนรู้มานำเสนอขณะเดียวกันโรงเรียนจะ Add on curriculum

Learning opportunity
           Dialogue ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ดีในการทำพิพิธภัณฑ์ โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวไม่ใช่การตอบโต้แบบคุยคนเดียวแต่เป็นการนำเสนอโดยการตอบโต้ในวงกว้างคือการตอบโต้กับหลายๆคนได้ในทีเดียว เป็น interactive ดังนั้นพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมีหลายพาสให้คนเลือกเดินโดยจะไม่ได้บังคับผู้เข้าชมให้เดินตามทางแต่จtให้เลือกเดินเองได้
          ดังนั้นถ้าเราอยากจะสร้าง museum ที่แตกต่างเราจะต้องหัด ใฝ่หาความรู้ ดูสิ่งแปลกใหม่ที่หาได้ตาม youtube หรือ google เพื่ออัพเดตความรู้ บางทีเราก็หาคลิปที่น่าสนใจมาเป็นแรงบรรดาลใจแนะนำได้เพราะว่ามันสามารถนำมาพัฒนา มาเป็น interactive ได้


Museum of the future
         เราคาดว่าเกิดจากการที่เรา Exporloration and discover ทำให้มีแรงกระตุ้นในการอยากที่จะทำหรือเรียนรู้สิ่งๆนั้นและสร้างเพื่อนำเสนอมันออกมาให้คนได้ชมกัน


        "คนเรามีอายุหลายปี แต่เราอยากจะมีชีวิตอยู่ในห้องเรียน ห้องสี่เหลี่ยมซักกี่ปีหละ อย่างที่ผมเคยกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่าการเรียนนอกสถานที่นั้นเป็นอะไรที่น่าดึงดูดผมมากๆเพราะมันไม่ได้เห็นแค่สมุดเรียนและกระดานดำแต่เราสามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อม ความรู้และอะไรได้อีกมากมาย เพราะการเรียนรู้ของคนเราคือการเรียนรู้ทั้งชีวิต เราสามารถหาความรู้ให้ตัวเองได้เพียงแค่เราลองมองออกไปนอกกรอบเราก็จะเห็นความรู้ที่เราไม่เคยมองและคิดจะมองมัน การเดินมิวเซียมก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการหาความรู้นอกห้องเรียน เพราะสิ่งที่ Museum นั้นนำเสนอออกมานั้นหละคือความรู้ แต่ละมิวเซียมก็มีความรู้ที่ไม่เหมือนกัน เราสามารถหาความรู็ที่แปลกใหม่ได้เรื่อยๆ แถมการเดิน Museum บ้างที่นั้นเราอยากจะเดินข้อคิดหรือสิ่งที่เราแอบแฝงอยู่ภายในกิจกรรมที่เราเล่นผ่านมาก็เป็นได้"

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Recommend 4: LOUVRE MUSEUM ความอลังการที่อลังมากๆๆ

         พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ (LOUVRE MUSEUM) หรือพระราชวังลูฟว์ เป็นพิพิธภัณฑ์ในประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ใครที่มาถึงฝรั่งเศสแล้วไม่ได้มาชมที่นี่ถือว่าเอ้ามากๆ อิิอิ ความอลังการของที่นี่ไม่ได้มีแค่ข้างในเท่านั้นแต่ว่าข้างนอกก็ไม่ได้ด้อยเลย ต้องบอกว่าใหญ่มากๆ 





          ภายในพิพิธภัณฑ์นั้น มีหลายหมวดด้วยกันแบ่งไว้เป็นสัดส่วนได้อย่างดีมากๆ พวกเราเดินจนเมื่อยขาก็ยังไม่ครบซักทีฮาๆ ส่วนแรกที่จะพาไปนะต้องนี้เลยภาพวาดอันเลื่องชื่อ โมนาลิซ่า จริงตามความคิดของพวกเราภาพนี้แปลกมากเป็นภาพเล็กๆไม่มีอะไรแต่ได้รับความสนใจเว่อร์มากๆถึงกับขนาดที่เขาต้องนำกระจกมาติดไว้บนภาพเพื่อป้องกันและถนอมภาพจากแวงแฟลตมากมายของผู้ที่มาชมภาพนี้



         เอาจริงภาพนี้เล็กมากไม่ค่อยประทับใจเลยฮาๆ แต่ว่าพิพิธภัณฑ์ใหญ่ขนาดนี้เพื่อนๆงงกันไหมว่าเขาดูแลมันยังไงหนะให้รักษาภาพทั้งหมดนี้ได้ มันอาจจะไม่ใช้ทั้งหมดนะแต่ว่าภาพวาดที่นี่นั้นจะมีเซ็นเซอร์ติดไว้ที่หน้าภาพถ้าเราเข้าไปใกล้เกินนั้นเราจะได้ยินเสียงสัญญาณเตือนฮาๆ พอสัญญาณดังคนก็ตกใจกันไปนะจ๊ะฮาดีฮาๆ ในภาพด้านล่างถ้าสังเกตุเห็นหน้าภาพจะมีเสานั้นหละเสาสัญญาณเตือนจ๊ะ สังเกตุนะแต่ละโซนจะมีวิธีการนำเสนอที่ไม่เหมือนกันจ้าเชิญชมได้เลย

ห้องโถงที่แสดงภาพวาดต่างๆ


วัตถุโบราณที่ถูกจัดแสดงไว้ในตู้กระจก





ห้องที่แสดงพรมไว้ที่ผนังห้อง

ห้องโถงใหญ่ที่แสดงรูปปั้นไว้รอบๆ



          ส่วนนี้จะเป็นส่วนของชั้นใต้พื้นดินนะจะเห็นส่วนของกำแพงเก่าไว้ๆ และจะนำโมเดลของพระราชวังแต่เดิมที่คาดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นมาให้ชมกัน

           โดยตรงส่วนนี้จะมี การเล่นกับผู้ชมด้วยนะ พวกเราสังเกตุได้เลยว่าขณะที่คนกำลังเดินไปเดินมานั้นทุกคนแวะถ่ายรูปกับจอภาพนี้ด้วยถือว่าได้รับความนิยมนะ


          มีการติดคำว่ายินดีต้อนรับหลายๆภาษาด้วยหลอด LED เพื่อแสดงความต้อนรับคนในหลายๆชาติ
เป็นอีกมุมหนึ่งที่น่ารักทีเดียว


            ตรงส่วนนี้พวกเราชอบมากที่สุดเลยนะเข้าหมวดอียิป ฮาๆ เพราะว่าส่วนนี้ได้นำมัมมี่ตัวเป็นๆจริงๆมาโชว์จ้า ไม่ใช่แค่โชว์โลงธรรมดาๆนะ ตื่นเต้นอ่ะ คุ้มค่าเข้าก็ที่นี่หละ อิอิ





แวะถ่ายรูปกับจุดดัง เป็นด้านใต้ของพีระมิดทางประตูขาเข้า








วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Lecture 4: Museum Development Process II


คาบเรียนที่ 4

         NDMI คือ รูปแบบการจัด Museum จะมี Museum Siam, TCDC และ ที่ TK Park (Central World) ที่จัดแสดงแบบนี้อยู่



Museum Exhibition Design มีอยู่ 2 แบบ คือ 
Object Content 
        คล้าย พิพิธภัณฑ์ บ้านเชียง, Motor Show
Information Content 
        คล้าย สสส.,  Motor Show แต่บางส่วนบอกรายละเอียดเช่น การบอกรายละเอียดของเครื่องยนต์ เราจะถือว่าเป็น Information Display


กระบวนการพัฒนานิทรรศการ


รวบรวมแนวคิดในการออกแบบและวิเคราะห์-> วางแผนการทำงาน-> ดำเนินแผนการผลิตและแผนก่อสร้าง-> ดำเนินแผนบริหารจัดการ -> เปิดให้บริการและประเมินผล



Conceptual Design Phase

1. Product-Oriented Activities ยกตัวอย่างเช่น งาน Motor Show มี Product คือ รถยนต์ จะต้องมีการติดตั้ง การโชว์รถยี่ห้อต่างๆเป็นต้น ระดมความคิดที่จะนำเสนอชิ้นงาน
2. Management Activities คือ ขึ้นตอนการจัดการกับทรัพยากรที่มีให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ครอบคลุม ดูทัรพยากรทที่เรามีว่าสามารถทำงานนั้นๆได้ไหม
3. Results - คือการเผยแพร่และแสดงงานให้ผู้คนได้รู้จัก และได้เรียนรู้ในเนื้อหาของนิทรรศการที่จัดขึ้น มีตารางงานการจัดแสดง และบอกได้ว่าเรามีอะไรที่จะสามารถนำมาโชว์บ้าง


Development Phase

        Product-Oriented Activities การคิดเป้าหมาย, รูปแบบการนำเสนอเรื่องราว, การออกแบบพิพิธภัณฑ์, การสร้างส่วนการเรียนรู้, และแนวทางการโปรโมท


Content Development

1. Theme overview

2. Literature review คือ การหาเนื้อหา ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และ การออกสำรวจความคิดเห็น
3. Content Analysis การรวบรวมความรู้ และ รายงานการวิจัย
4. Content Systhesis คือ การเขียน Story-line
5. Support and consulting คือ การออกแบบเป็นทีม


Developmental Phase

1. Management Activities เช่น การจัดการเรื่องงบประมาณ สถานที่ และปริมาณงานเป็นต้น

2. Results

Exhibition Plan ได้แก่ พวกเนื้อหา cencept พื้นที่ ค่าใช้จ่าย เป็นต้น
Education Plan ได้แก่ รายละเอียด
เนื้อหาที่จะต้องสื่อและทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจ
Promotion Plan ได้แก่ การทำ PR ให้คนทั่วไปรู้จัก


Functional Phase

1. Product-Oriented Activities คือการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าชม เก็บผลสำรวจการใช้งาน การบำรุงรักษา และ ความปลอดภัยของชิ้นงานเป็นต้น

2. Management Activities คือ การมีส่วนร่วมของ Account ผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบ 

3. Results
    ประสพความสำเร็จตรงตามเป้าหมายที่พิพิธภัณฑ์ต้องการสื่อให้คนเข้าใจและไม่เกิดความเสียหายของชิ้นงานที่นำเสนอหรือมีการป้องกันไว้แล้ว
Terminating Stage

1. Product-oriented activities คือการ ลื้อถอนชิ้นงาน และส่งคืนที่ที่มา และทำเอกสารแสดงรายงาน
2. Management activities คือ จัดทำบัญชีการใช้จ่าย
3. Results
     Exhibition จบ และส่งของคืนเรียบร้อย จากนั้นจัดการทำความสะอาดสถานที่และซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด


Assessment Phase

1. Product-oriented activities คือ การประเมินผลในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวชิ้นงานที่นำเสนอหรือกระบวนการทำงาน
2. Management activities คือ จัดทำแบบประเมินผล
3. Results 
    จะผลของการประเมินและนำมันพัฒนาในชิ้นงานชิ้นต่อๆไป

       "ต้องบอกเลยว่า ณ ตอนนี้ผมได้มีโอกาสไปพิพิธภัณฑ์ มาหลายที่แล้วพอได้มารู้จักขึ้นตอนการจัดทำแล้วนั้นก็ทำให้รู้ซึ้งถึงความยากและความซับซ้อนมากขึ้นว่ากว่าจะออกมาเป็น Exhibition หรือ Museum หนึ่งๆนั้นยากมากต้องมีฝ่ายที่ทำงานหลายฝ่ายและต้องมีระยะเวลาในการทำพอสมควร ผมชอบนะครับการเดินพิพิธภัณฑ์ เพราะมันทำให้เราได้มองอะไรแปลกไปจากเดิมมากขึ้น คิดแบบที่เราไม่ได้คิดเพราะพิพิธภัณฑ์ ทำให้เราได้คิดเป็นการเปิดโลกกว้างให้ผมอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ยิ่งรู้ว่ามันทำยากแค่ไหนก็แปลว่าเขาใส่ใจในการทำและอยากนำเสนอเราจริง ผมว่ายิ่งผมเดินชมพิพิธภัณฑ์ที่ต่างออกไปไม่ว่าจะประเทศเดียวกันหรือต่างประเทศแต่ละพิพิธภัณฑ์มีการนำเสนอที่ไม่เหมือนกันและยังคงตื่นตาตื่นใจผมเสมอ "